ชาวบ้านโอดครวญน้ำมันขึ้นราคาอีก (Photo:CNA)
เซ็งจังเลย น้ำมันขึ้นราคา อีก 80 สตางค์ แล้วนะ รีบๆ ไปเติมกันนะ ... Y_Y
คุณเป็นอีกคนหนึ่งรึเปล่าครับ ที่รีบขับรถไปที่ปั๊มใกล้ที่สุดในวันก่อนประกาศราคาน้ำมันขึ้น เพื่อเข้าแถวเติมน้ำมันเต็มถัง จะได้ประหยัดเงิน ไม่ถึง 100 บาท แต่พอเติมได้ รู้สึกดีใจจัง โล่งอก เราโชคดีกว่าอีกหลายคนที่ไม่ได้เติม
ถ้าใช่ แล้วผมบอกว่า ผมมีปั๊มที่ให้คุณเติมน้ำมันได้ถูกกว่าปัจจุบัน 5 บาท!!! และไม่ต้องขับรถข้ามไปเติมที่มาเลย์ด้วย คุณจะเชื่อมั้ยครับ
ไม่ต้องเชื่อครับ เพราะผมไม่มีหรอกปั๊มน้ำมันที่ว่าเนี่ย แต่ถ้าผมมีวิธีช่วยให้คุณประหยัดได้ถึงถังละ 200 บาท!!! คุณสนใจมั้ยล่ะ
ผมว่าคุณสนใจ แต่คงไม่เชื่อ
ก็ไม่ต้องเชื่อครับ เพราะว่าผมเป็นใครก็ไม่รู้ มาหลอกลวงแหกตากันรึเปล่า
แต่ขอถามคำเดียวว่า คุณพร้อมจะลองดูมั้ย
ก่อนที่คุณจะสุดทนกับราคาน้ำมัน อั้นไว้ไม่ไหวแล้ว และต้องนำรถสุดที่รักไปติด LPG หรือ NGV แทน (ซึ่งต้องลงทุนเงินก้อนใหญ่ในการติดตั้ง ยังไม่รวมถึงความไม่สะดวกต่างๆนานา เนื่องจากปั๊มที่มี NGV ขายยังไม่ทั่วถึง เคยเห็นรถเข้าแถวกันเติม NGV มั้ยละครับ ส่วน LPG ก็ไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะรัฐจะเลิกพยุงราคาแล้ว อันนี้ไม่รู้ว่าอีกหน่อย NGV จะเลิกพยุงราคาด้วยมั้ย)
หรือว่าคุณจะรอให้น้ำมันขึ้นไปถึง 40... 45... 50 ก่อนค่อยหาวิธี ( ในขณะที่คนอื่นที่กล้าลอง เขาประหยัดกันไปถึงไหนๆแล้ว ) ไม่มัวติดยึดกับความคิดแค่ว่า "เดี๋ยวโดนหลอก" หรือ "ได้ยินมาว่า หรือ..."
เอาล่ะ ถ้าคุณสนใจ คุณต้องสงสัยว่า "แพงมั้ย วิธีที่ว่านี้ ต้องติดตั้งเครื่องอะไรแปลกๆรึเปล่า"
ผมจะบอกว่า ถ้าคุณลงทุนครั้งละ 50 บาท ต่อน้ำมันรถ 1 ถัง (ประมาณ 23-40 ลิตร) แล้วประหยัดได้ประมาณ 200 บาทโดยเฉลี่ยต่อถัง โดยคุณไม่ต้องดัดแปลงเครื่อง หรือทำอะไรกับรถเลย
แถมถ้าทดลองใช้วิธีนี้ครั้งแรกแล้ว ไม่พอใจ ก็สามารถขอคืนเงินได้ด้วย (คลิกอ่านรายละเอียดการประกันคืนเงิน ภายใน 30 วัน)
หรือถ้าใช้แล้วเครื่องยนต์พัง มีปัญหา ต้องส่งเข้าอู่ซ่อมใครกันจะรับผิดชอบ
ไม่ใช่ผมแน่ๆ ครับ เพราะยังไม่มีปัญญาหรอก แต่ว่าผู้รับผิดชอบคือบริษัท FFI เจ้าของลิขสิทธิ์สินค้า MPG-CAPS (ชื่อสินค้ามหัศจรรย์ที่ว่านี้) โดยเขามีวงเงินประกันให้ถึง 5 ล้าน ยูเอสดอลลาร์ เหลือเฟือครับ
ฉะนั้น คุณไม่ต้องห่วง กังวลใดๆทั้งสิ้น ถ้าเครื่องยนต์รถมีปัญหา คุณขอเคลมประกันได้ เผลอๆ เครื่องรถเก่าของคุณจะกลายเป็นเครื่องใหม่
ถ้าสนใจ ก็ลองคลิกเข้าไปดูข้อมูลต่อได้เลยครับ
ขออนุญาตแถมท้ายต่ออีกว่า วิธีนี้ไม่เพียงประหยัดน้ำมัน แต่ยังรักรถของท่าน และรักสิ่งแวดล้อมด้วยครับ!!!
ข้อนี้แหละจะตอบโจทย์ได้ว่า ในภาวะโลกปัจจุบัน คนตัวเล็กๆ อย่างท่าน จะมีโอกาสช่วยโลกเราได้อย่างไร นี่แหละครับ คำตอบข้อหนึ่งที่จะทำให้ท่านช่วยโลกใบนี้ได้ อย่างน้อยก็ได้ทำอะไรบ้าง นอกเหนือจากการหิ้วถุงผ้าไปจ่ายตลาด !!!
ที่บอกว่าเทคโนโลยีนี้ช่วยโลกได้ เพราะมันมีกลไกที่ช่วยทำให้ห้องเครื่องยนต์สะอาด ทำให้การเผาไหม้เชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังทดแทนสารตะกั่วในน้ำมัน ลดมลภาวะ ลดก๊าซก่อเรือนกระจกต่างๆ สินค้าตัวนี้ในอเมริกา จุดขาย ไม่ได้อยู่ที่การประหยัดนะครับ แต่เขาเน้นว่าช่วยลดภาวะโลกร้อนต่างหาก แล้วคุณล่ะ อยากเป็นคนดีของโลกบ้างรึเปล่า
แถมยังทำให้รถวิ่งฉิวขึ้นอีกต่างหาก ไม่หนืดไม่ฝืด แต่ว่าพอเครื่องแรงแล้ว อย่าเผลอเหยียบแรงขึ้นนะครับ ขอให้ขับตามปกติ เดี๋ยวจะไม่ได้ประหยัดสมใจ
ถ้าถามว่า เทคโนโลยีนี้มาจากไหน ต้องบอกว่า เป็นเทคโนโลยีเก่าอายุ 30 ปีแล้ว (ผู้ใช้คือองค์การการบินอวกาศนาซ่า NASA ที่เขาส่งจรวดไปดวงจันทร์นั่นแหละครับ เขาใช้น้ำมันมหาศาลมากในการส่งจรวด แต่ว่าก็มีข้อจำกัดว่ายิ่งใช้น้ำมันมาก ก็ยิ่งหนักจรวด ทำให้ใช้พลังงานมากขึ้นในการยิงจรวด เป็นงูกินหางแบบนี้ เขาถึงต้องพัฒนาเทคโนโลยีตัวนี้ขึ้นมา เพื่อให้ใช้น้ำมันน้อยลง แต่ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งก็เท่ากับประหยัดน้ำมันนั่นเอง)
คุณอาจจะสงสัยว่า อ้าว ถ้ามันมีมานานแล้ว และดีจริง ทำไมคนไม่แห่ใช้ตั้งนานแล้ว??
ก็เพราะว่า เมื่อ 30 ปีก่อน น้ำมันไม่ได้แพงมหาโหดแบบนี้ไงครับคุณ
แต่ว่ามันใช้ได้จริงๆนะ (รึเปล่า? อย่าเพิ่งเชื่อถ้ายังไม่ได้ลองใช้) และนี่คือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ MPG-CAPS สินค้ามหัศจรรย์ที่ผมอยากแนะนำให้คุณใช้
- เป็นเทคโนโลยีที่ องค์การอวกาศ NASA ของสหรัฐพัฒนาร่วมกับบริษัท CONSEAL CO., LTD. สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1975 ใช้ในการขับเคลื่อนยานอวกาศ องค์การนาซ่า (NASA)
- Nano Technology ชั้นสูง สกัดจากธรรมชาติ 100% เป็นสารปรุงแต่งเชื้อเพลิงชนิดเม็ด เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ในเครื่องยนต์
- เป็นสินค้าที่ปลอดมลภาวะ ผ่านการทดสอบโดย EPA (United State Environmental Protection Agency) SN: EPA#201220002
- ผ่านการตรวจสอบจาก FTC (The Federal Trade Commission) หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
- รับประกันคุ้มครองความเสียหายของเครื่องยนต์จากการใช้สินค้า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ตอกย้ำกันอีกรอบ)
อยากบอกคุณว่า บริษัท FFI เริ่มเปิดเมื่อพฤศจิกายน ปี 2005 ปัจจุบันมีการจำหน่ายสินค้าในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก รวมถึงญี่ปุ่น ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเฮี๊ยบมาก ในเรื่องที่ว่าใครจะเอาสินค้ามาขายเขาแบบต้มหมู
สนใจฟังรายละเอียดเรื่องนี้เพิ่มเติมเข้าไปศึกษาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของผมนะครับ หรือถ้ายังไม่เคลียร์ อยากฟังให้เป็นเรื่องเป็นราว โทรหาผมได้ครับ ตามเบอร์ในเว็บไซต์นั้นแหละ อยู่ข้างบนครับ
สำหรับเรื่องที่ได้ยินมาว่าเป็น mlm ไม่ดียังงั้นยังงี้ แค่ไปฟัง ก็โง่แล้ว เดี๋ยวโดนหลอก
ขอร้องครับว่า ยังไม่ต้องไปคิดถึงจุดนั้น ถ้าอยากรู้ว่าของเขาดีจริงมั้ย ก็ลองซื้อใช้ แล้วถ้าดี ติดใจ ก็ซื้อใช้ไปเรื่อยๆก็ได้ โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกทำธุรกิจกับเขา ไม่มีใครบังคับคุณได้ครับ ไม่ต้องกลัวโดนกล่อมประสาท หรือจะมีใครเอายามาป้ายคุณ จนทำให้คุณหลวมตัวสมัครสมาชิก
ถ้าไม่ต้องการทำธุรกิจ แต่ว่าสินค้าใช้แล้วดี ใช้แล้วประหยัดจริง เครื่องยนต์ดีขึ้นจริง เขม่าควันลดลงจริง อยากใช้ต่อไปเรื่อยๆ ก็ซื้อแต่สินค้าได้ครับ จบเรื่องแค่นั้น ชิวๆ
ขอให้เปิดใจ เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ประหยัดเงินในกระเป๋า มาทดลองใช้สินค้าดูก่อนว่าได้ผลมั้ย อาศัยหลักกาลามสูตร พิสูจน์ด้วยตัวเองครับ อย่าเชื่อตามคนอื่น อย่าฟังตามใคร เรามีสติปัญญา ต้องคิดเองครับ
อย่าเอาคำว่า "มีคนบอกว่า..." คนนั้นคนไหนก็ไม่รู้ "ได้ยินมาว่า..." ได้ยินใครก็ไม่รู้ มาเป็นกรงขังตัวเองครับ ทดลองดูไม่เสียหาย เพราะทั้งหลายทั้งปวงนี้ ขอเงินคืนได้อยู่แล้ว แต่ถ้าคุณกล้าลอง แล้วของเขาดีจริง คุณจะประหยัดเงินค่าน้ำมันได้แค่ไหนครับ คิดครับ.. คิด
รายละเอียดการประกันความพอใจสินค้า คืนเงินภายใน 30 วัน อ่านครับ เพื่อผลประโยชน์ของท่านเอง
0 ความคิดเห็น:
Subscribe to:
Post Comments (Atom)